ชั้นลอย

ชั้นลอยน็อคดาวน์คืออะไร?

ชั้นลอยน็อคดาวน์ (Knock-Down Mezzanine Floor) คือโครงสร้างชั้นลอยเหล็กสำเร็จรูปที่ออกแบบให้ ถอดประกอบได้ (Bolt & Nut System) ไม่ได้เชื่อมติดเป็นโครงสร้างถาวรเหมือนงานก่อสร้างทั่วไป

จุดเด่นคือ:

  • ผลิตเป็นชิ้นส่วน (เสา, คาน, แป, แผ่นพื้น) จากโรงงาน

  • ยกไปประกอบหน้างานได้รวดเร็ว

  • สามารถรื้อ ย้าย ปรับขนาด หรือขยายชั้นเพิ่มได้ในอนาคต

จึงเหมาะกับธุรกิจที่ต้องการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในโกดังแบบ “เพิ่มพื้นที่แนวตั้ง โดยไม่ต้องขยายอาคาร”


โครงสร้างพื้นฐานของชั้นลอยน็อคดาวน์

แม้จะเป็นโครงสร้างถอดประกอบ แต่ชั้นลอยน็อคดาวน์ที่ออกแบบดีจะมีองค์ประกอบหลักชัดเจน:

  • เสารับน้ำหนัก (Column)
    รับน้ำหนักจากพื้นชั้นลอยลงสู่พื้นโกดัง ออกแบบตามโหลดสินค้าที่ต้องการวาง

  • คานหลัก–คานรอง (Main Beam / Joist)
    กระจายน้ำหนักจากพื้นชั้นลอยสู่เสา

  • พื้นชั้นลอย (Flooring)
    เช่น เหล็กแผ่นลาย, แผ่นเหล็กกริตติ้ง, ไม้ปิดผิว, แผ่นคอมโพสิต ฯลฯ เลือกตามประเภทการใช้งาน

  • บันได ทางขึ้น ลงสินค้าหรือคน
    บางระบบมีราวกันตก ประตูสวิงรับ–ส่งพาเลท ฯลฯ เพื่อความปลอดภัย

  • ราวกันตก / ป้ายบอกน้ำหนัก / ระบบป้องกัน
    ช่วยให้ใช้งานปลอดภัยและเป็นระเบียบ

แม้จะเป็น “น็อคดาวน์” แต่โครงสร้างที่ผ่านการออกแบบโดยวิศวกรจะคำนวณ น้ำหนักต่อ ตร.ม. และ โหลดจุดสำคัญ อย่างชัดเจน


ทำไมหลายโกดังถึงเลือกใช้ชั้นลอยน็อคดาวน์แทนการต่อเติมอาคาร?

เพราะชั้นลอยน็อคดาวน์ตอบโจทย์ทั้ง ความคุ้มค่า + ความยืดหยุ่น โดยเฉพาะในคลังสินค้าสมัยใหม่:

1. เพิ่มพื้นที่เก็บของ 2–3 เท่า โดยไม่ต้องขยายอาคาร

สำหรับโกดังที่ พื้นที่พื้นหมดแล้ว แต่ความสูงอาคารยังเหลือ การสร้างชั้นลอยน็อคดาวน์ช่วยให้:

  • เพิ่มพื้นที่จัดเก็บแนวตั้ง

  • แยกโซนการทำงาน เช่น ชั้นล่างเป็นโซนจัดเตรียมสินค้า ชั้นบนเป็นโซนสต็อก

  • ใช้พื้นที่เดิมให้คุ้มค่ามากที่สุด

2. ถอด รื้อ ย้ายได้ เหมาะกับอาคารเช่า

หากคุณใช้ โกดังเช่า หรือคลังชั่วคราว การลงทุนในงานก่อสร้างถาวรอาจไม่คุ้ม เพราะย้ายออกแล้วเอาไปไม่ได้

ชั้นลอยน็อคดาวน์จึงเหมาะมาก เพราะ:

  • สามารถถอดย้ายไปใช้ที่โกดังใหม่ได้

  • ปรับขนาด/ทรงให้เข้ากับตึกใหม่ได้ในระดับหนึ่ง

  • เป็นทรัพย์สินที่เคลื่อนย้ายได้ ไม่สูญเปล่าเมื่อหมดสัญญาเช่า

3. ติดตั้งเร็ว ลด Downtime การทำงาน

โครงสร้างชั้นลอยน็อคดาวน์ผลิตจากโรงงานเป็นหลัก หน้างานทำหน้าที่ประกอบเป็นส่วนใหญ่ ทำให้:

  • ลดเวลาปิดพื้นที่หน้างาน

  • ลดฝุ่น เสียง และผลกระทบต่อสินค้าในคลัง

  • เหมาะกับคลังที่ “หยุดทำงานได้ไม่นาน”


ชั้นลอยน็อคดาวน์เหมาะกับโกดังและคลังสินค้าแบบไหน?

ไม่ใช่ทุกโกดังที่จะเหมาะกับชั้นลอยน็อคดาวน์ แต่ถ้ามีเงื่อนไขประมาณนี้ บอกได้เลยว่า “ใช่”

1. โกดังเพดานสูง แต่พื้นที่พื้นเริ่มไม่พอ

เหมาะมากถ้าโกดังของคุณมีลักษณะ:

  • ความสูงอาคารประมาณ 6–12 เมตร

  • ชั้นล่างเริ่มแน่น แต่ด้านบนยังโล่ง

  • ต้องการเพิ่มพื้นที่เก็บของหรือพื้นที่ใช้งาน โดยไม่อยากเช่า/สร้างโกดังใหม่

กรณีนี้ชั้นลอยน็อคดาวน์ช่วย แปลงพื้นที่โล่งด้านบนให้กลายเป็นพื้นที่ใช้งานจริง ได้ทันที


2. คลังสินค้าอีคอมเมิร์ซ / Fulfillment ที่ต้องแยกโซนชัดเจน

คลังที่ต้องจัดการออเดอร์จำนวนมาก เช่น:

  • ร้านออนไลน์ / Brand E-Commerce

  • Fulfillment Center

  • คลังที่ใช้ระบบ WMS / Barcode / Picking List

ชั้นลอยน็อคดาวน์ช่วยให้:

  • ชั้นล่างเป็นโซนรับสินค้า / แพ็ก / คัดออเดอร์

  • ชั้นบนเป็นโซนสต็อก แบ่งตามหมวดหมู่หรือ ABC Class

  • ทางเดินและบันไดถูกออกแบบให้ไหลตาม Flow งาน

ทำให้การบริหารสินค้าและคน เป็นระบบมากขึ้น โดยไม่ต้องเพิ่มอาคาร


3. โกดังที่ต้องการ “สำนักงาน + พื้นที่สต็อก” ในที่เดียวกัน

บางธุรกิจอยากให้ทีมออฟฟิศอยู่ใกล้สต็อกเพื่อเช็กงานง่าย เช่น:

  • สำนักงานฝ่ายขาย + สต็อกสินค้า

  • ห้อง QC / ห้อง Lab ตรวจสินค้า

  • ห้องควบคุม / ห้องแอดมินระบบโกดัง

สามารถใช้ชั้นลอยน็อคดาวน์เป็น:

  • ชั้นล่างเก็บสินค้า

  • ชั้นบนกั้นห้องสำนักงานหรือพื้นที่ทำงาน

โครงสร้างน็อคดาวน์ที่แข็งแรงและออกแบบตามมาตรฐานจะรองรับการใช้งานลักษณะนี้ได้ดี


4. ผู้ประกอบการที่คาดว่า “สเกลธุรกิจจะเปลี่ยนใน 3–5 ปี”

ถ้ารู้ล่วงหน้าว่า:

  • อีกไม่กี่ปีจะย้ายไปโกดังใหญ่ขึ้น

  • โครงสร้างสินค้า / ระบบจัดเก็บอาจเปลี่ยน

  • ไม่อยากผูกมัดกับโครงสร้างถาวร

ชั้นลอยน็อคดาวน์คือทางเลือกที่ยืดหยุ่น เพราะย้ายไปใช้ต่อ หรือขายต่อได้ง่ายกว่าการต่อเติมอาคารถาวร


ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจทำชั้นลอยน็อคดาวน์

แม้จะมีข้อดีเยอะ แต่ชั้นลอยน็อคดาวน์ก็มีจุดที่ควรพิจารณาให้ดี:

  • ต้องคำนวณโครงสร้างโดยวิศวกร
    เพื่อให้รับน้ำหนักตามการใช้งานจริง (เช่น เดินอย่างเดียว, วางของเบา, วางพาเลทพร้อมโฟล์กลิฟต์ขึ้น)

  • ต้องสำรวจสภาพพื้นโกดังเดิม
    พื้นต้องรับน้ำหนักจากเสาได้อย่างปลอดภัย

  • ต้องคิดเรื่องทางหนีไฟและความปลอดภัย
    ตำแหน่งบันได ทางออกฉุกเฉิน ราวกันตก ป้ายเตือน

  • ผูกกับระบบจัดเก็บ / ระบบ WMS / ระบบขนส่งแนวตั้ง
    เช่น ลิฟต์ยกของ รางลำเลียง หรือจุดรับ–ส่งพาเลทด้านข้างชั้นลอย

การทำชั้นลอยน็อคดาวน์ให้คุ้ม จึงควรเป็นงานออกแบบแบบรวมทั้ง โครงสร้าง + การใช้งาน + ระบบคลัง ไม่ใช่มองแค่โครงเหล็กอย่างเดียว

#ชั้นลอยน็อคดาวน์ #ชั้นลอยเหล็ก #ชั้นลอยคลังสินค้า #โกดังสินค้า #คลังสินค้า #ออกแบบคลังสินค้า #MezzanineFloor #WarehouseStorage #RackSystem #เพิ่มพื้นที่เก็บของ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Line : @002dihds