ทำไมการติดตั้งชั้นวางของโกดังจึงสำคัญ
การติดตั้งชั้นวางของโกดังไม่ได้เป็นเพียงขั้นตอนสุดท้ายของการก่อสร้างคลังสินค้าเท่านั้น แต่เป็น “หัวใจหลัก” ของการบริหารพื้นที่จัดเก็บสินค้าให้มีประสิทธิภาพ
การติดตั้งที่ถูกต้องจะช่วยให้:
-
ใช้พื้นที่ได้เต็มประสิทธิภาพ
-
ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ
-
ยืดอายุการใช้งานของชั้นวาง
-
เพิ่มความรวดเร็วในการจัดการสินค้า
บทบาทของชั้นวางในระบบจัดเก็บสินค้า
ชั้นวางช่วยจัดระเบียบสินค้าในแนวดิ่ง เพิ่มพื้นที่เก็บของโดยไม่ต้องขยายพื้นที่โกดัง อีกทั้งยังช่วยให้การขนถ่ายสินค้าด้วยรถโฟล์คลิฟท์ทำได้ปลอดภัยและรวดเร็ว
ผลกระทบจากการติดตั้งผิดวิธี
หากติดตั้งชั้นวางโดยไม่มีการวางแผนหรือคำนวณรับน้ำหนักที่ถูกต้อง อาจเกิดผลเสียร้ายแรง เช่น
-
โครงสร้างล้มพังจากน้ำหนักเกิน
-
การเอียงของชั้นทำให้สินค้าเสียหาย
-
อันตรายต่อพนักงานและอุปกรณ์ขนส่ง
ประเภทของชั้นวางของโกดังที่ควรรู้ก่อนติดตั้ง
1. Selective Racking
เหมาะกับสินค้าที่มีหลายประเภท (SKU) และต้องการเข้าถึงแต่ละพาเลทได้ง่าย รองรับการใช้โฟล์คลิฟท์ทุกประเภท
2. Drive-In / Drive-Thru Racking
ออกแบบให้รถโฟล์คลิฟท์ขับเข้าในช่องชั้นวางได้ เหมาะกับสินค้าชนิดเดียวจำนวนมาก
3. Cantilever Rack
ใช้เก็บวัสดุที่มีความยาว เช่น ท่อ เหล็ก หรือไม้ เหมาะกับอุตสาหกรรมก่อสร้าง
4. Mezzanine Floor System
เป็นระบบชั้นลอย เพิ่มพื้นที่จัดเก็บในแนวดิ่งโดยไม่ต้องขยายพื้นที่แนวนอน
5. AS/RS System (Automated Storage & Retrieval System)
ระบบอัตโนมัติที่ใช้หุ่นยนต์และเซ็นเซอร์ควบคุมการเก็บและเบิกสินค้า เหมาะกับคลังสินค้าขนาดใหญ่และธุรกิจโลจิสติกส์
ขั้นตอนการติดตั้งชั้นวางของโกดังอย่างมืออาชีพ
1. สำรวจพื้นที่และวัดขนาดจริง
เริ่มจากการตรวจสอบสภาพพื้น ความสูงของโกดัง จุดเสา และทางเข้าออก เพื่อคำนวณตำแหน่งติดตั้งให้เหมาะสม
2. ออกแบบผังการจัดเก็บสินค้า
ผังที่ดีต้องคำนึงถึงทิศทางการเคลื่อนไหวของสินค้า (Inbound – Outbound) รวมถึงพื้นที่หมุนรถโฟล์คลิฟท์และทางเดินพนักงาน
3. เตรียมพื้นและฐานรากให้มั่นคง
พื้นโกดังต้องเรียบ แข็งแรง และได้ระดับ หากพื้นไม่เรียบอาจทำให้ชั้นวางเอียงได้
4. ประกอบโครงสร้างชั้นวาง
ใช้เครื่องมือเฉพาะในการยึดน็อตและคาน ต้องตรวจสอบว่าทุกส่วนแน่นหนา และติดตั้งตามแบบแปลนจากผู้ผลิต
5. ตรวจสอบแนวระดับและความแข็งแรง
ใช้เครื่องมือวัดระดับเพื่อให้แน่ใจว่าชั้นวางตรง ไม่เอียงหรือบิดตัว
6. ทดสอบการรับน้ำหนักและตรวจสอบความปลอดภัย
ก่อนใช้งานจริง ควรมีการทดสอบแรงรับน้ำหนัก (Load Test) ตามมาตรฐาน FEM หรือ ISO
มาตรฐานความปลอดภัยในการติดตั้งชั้นวางของโกดัง
การรับน้ำหนักต่อชั้น (UDL)
UDL หรือ Uniformly Distributed Load หมายถึงน้ำหนักที่กระจายทั่วชั้นอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรเกินค่าที่กำหนดจากผู้ผลิต
มาตรฐานที่ควรตรวจสอบ
-
FEM 10.2.02: มาตรฐานยุโรปด้านชั้นวางพาเลท
-
ISO 9001: มาตรฐานคุณภาพระบบการผลิต
-
EN 15512: มาตรฐานการคำนวณรับแรงและการทดสอบ
การยึดฐานและป้องกันการล้ม
ทุกเสาควรยึดกับพื้นด้วย Anchor Bolt และติดตั้งตัวป้องกันการชน (Rack Protector) เพื่อป้องกันความเสียหายจากรถโฟล์คลิฟท์
อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการติดตั้งชั้นวางของโกดัง
ประเภทอุปกรณ์ | รายละเอียด |
---|---|
เครื่องมือช่างพื้นฐาน | ประแจ, ค้อน, สว่านไฟฟ้า, เครื่องวัดระดับ |
อุปกรณ์ยกของหนัก | รถโฟล์คลิฟท์, รอกยก, แม่แรงไฮดรอลิก |
อุปกรณ์ความปลอดภัย (PPE) | หมวกนิรภัย, ถุงมือ, รองเท้านิรภัย, เข็มขัดเซฟตี้ |
เคล็ดลับวางแผนติดตั้งชั้นวางให้คุ้มค่าและปลอดภัย
-
เลือกวัสดุคุณภาพ: เหล็กหนา เคลือบกันสนิม และผ่านการรับรองมาตรฐาน
-
ออกแบบผังคลังสินค้าให้เหมาะสม: เผื่อระยะทางเดินและโซนขนถ่ายสินค้า
-
ใช้บริการผู้เชี่ยวชาญติดตั้ง: เพื่อคำนวณรับน้ำหนักและความมั่นคงอย่างถูกต้อง
-
ตรวจสอบหลังติดตั้ง: ควรให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบทุก 6 เดือน
ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งชั้นวางของโกดัง
ปัจจัยที่มีผลต่อราคา
-
ขนาดพื้นที่โกดัง (ตร.ม.)
-
ประเภทชั้นวางและจำนวนชั้น
-
วัสดุที่ใช้ผลิต (เหล็กเคลือบสังกะสี / พ่นสี)
-
ค่าขนส่งและแรงงานติดตั้ง
ตัวอย่างประมาณราคาเบื้องต้น
ประเภทชั้นวาง | ราคาเฉลี่ย (บาท/ช่อง) | หมายเหตุ |
---|---|---|
Selective Rack | 6,000–12,000 | รับน้ำหนัก 1,000–3,000 กก./ระดับ |
Drive-In Rack | 10,000–20,000 | เหมาะกับสินค้าชนิดเดียว |
Mezzanine Floor | 3,500–5,000 / ตร.ม. | เพิ่มพื้นที่แนวดิ่ง |
Boltless Rack | 2,000–4,000 | ใช้ในร้านค้า/โกดังขนาดเล็ก |
สนใจชั้นวางของ ชั้นวางสินค้า >>> ช้อปที่นี่ <<<
หากสนใจชั้นวางของ ชั้นวางสินค้าพร้อมติดตั้ง >>> คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียด <<<
หรือ Line: @002dihds