UDL คืออะไร? ทำไมคนเลือกชั้นวางของต้องรู้

การเลือก ชั้นวางของ ไม่ใช่แค่เรื่องของดีไซน์หรือราคาเท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “น้ำหนักที่ชั้นวางสามารถรับได้จริง” ซึ่งตัวเลขนั้นมักจะถูกระบุเป็น UDL (Uniformly Distributed Load)

ความหมายของ UDL (Uniformly Distributed Load)

UDL คือ "น้ำหนักที่กระจายตัวอย่างสม่ำเสมอทั่วพื้นชั้นวาง" หมายความว่า ถ้าชั้นวางหนึ่งชั้นระบุว่า รับน้ำหนัก UDL ได้ 200 กิโลกรัม, จะต้องวางของให้กระจายน้ำหนักทั่วทั้งแผ่น ไม่ใช่กองรวมไว้เฉพาะจุดกลางหรือมุมใดมุมหนึ่ง

🔹 ตัวอย่าง:
ถ้าชั้นวางมีแผ่นเหล็กกว้าง 120 ซม. × ลึก 45 ซม. และมีค่า UDL = 200 กก.
หมายความว่า "ทุกส่วนของชั้น" ต้องกระจายน้ำหนักรวมไม่เกิน 200 กก.

ความแตกต่างระหว่าง UDL กับน้ำหนักรวม (Total Load)

หลายคนเข้าใจผิดว่า UDL คือน้ำหนักรวมของทั้งชั้นวางทั้งหมด ซึ่งไม่ถูกต้อง!
UDL คือ "น้ำหนักต่อชั้น" ที่กระจายเท่ากัน ส่วน Total Load คือ "น้ำหนักรวมของทุกชั้น" ทั้งโครงสร้าง

ตัวอย่าง: ชั้นวาง 5 ชั้น รับน้ำหนัก UDL 200 กก./ชั้น → Total Load = 1,000 กก. (เมื่อกระจายน้ำหนักเท่ากันทุกชั้น)


วิธีคำนวณ UDL ของชั้นวางอย่างง่าย

หากคุณต้องการรู้ว่า “ชั้นวางของเรารับน้ำหนักได้จริงเท่าไร” สามารถคำนวณเบื้องต้นได้ง่าย ๆ ดังนี้

สูตรคำนวณ UDL เบื้องต้น


UDL = น้ำหนักรวมของสินค้า ÷ พื้นที่กระจายน้ำหนัก

หรือในกรณีที่รู้ขนาดชั้นวางและน้ำหนักที่ต้องวาง:


น้ำหนักต่อจุด = น้ำหนักรวม ÷ จำนวนจุดรับน้ำหนัก

ตัวอย่างการคำนวณ UDL สำหรับชั้นวางทั่วไป

  • สมมติว่าคุณมีสินค้า 4 กล่อง กล่องละ 50 กก.

  • ต้องการวางบนชั้นเหล็กกว้าง 1.2 เมตร

รวมทั้งหมด = 200 กก.

ดังนั้น UDL ของชั้นนี้เท่ากับ 200 กก. ต่อชั้น
หากผู้ผลิตระบุว่าชั้นรับได้ 250 กก./UDL → ใช้งานได้ปลอดภัย
แต่ถ้าเกิน 250 กก. จะเริ่มมีความเสี่ยงต่อการโก่งหรือพังของแผ่นเหล็ก


ชั้นวางของแต่ละประเภท รับน้ำหนักได้เท่าไหร่?

ประเภทชั้นวาง ความสามารถในการรับน้ำหนัก (โดยประมาณ) เหมาะสำหรับ
ชั้นวางเหล็กฉาก (Angle Rack) 50–200 กก./ชั้น สินค้าทั่วไป น้ำหนักเบา-กลาง
ชั้นวาง Boltless Rack 150–400 กก./ชั้น อุปกรณ์สำนักงาน อะไหล่ทั่วไป
ชั้นวางพาเลท (Pallet Racking) 500–3,000 กก./ระดับ คลังสินค้า อุตสาหกรรม
ชั้นวาง Heavy Duty Rack 1,000–5,000 กก./ชั้น โรงงานอุตสาหกรรมหนัก
ชั้นวาง Mezzanine Floor 300–1,000 กก./ตร.ม. การเพิ่มพื้นที่แนวดิ่งในคลังสินค้า

💡 Tip: อย่าดูเฉพาะตัวเลขจากโฆษณา — ให้ขอใบรับรองการทดสอบน้ำหนักจากผู้ผลิตทุกครั้ง เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยจริง


ปัจจัยที่มีผลต่อการรับน้ำหนักของชั้นวาง

  1. วัสดุและความหนาของเหล็ก
    เหล็กหนาและผ่านกระบวนการเคลือบกันสนิม เช่น เหล็ก Galvanized หรือ Powder Coated จะรับน้ำหนักได้มากกว่าเหล็กบางราคาถูก

  2. การกระจายน้ำหนักสินค้า
    หากวางของกระจุกอยู่ตรงกลางหรือมุมเดียว จะทำให้โครงเหล็กโก่งงอได้ง่าย ควรกระจายสินค้าให้ทั่วชั้น

  3. โครงสร้างการติดตั้งและพื้นฐานการยึด
    พื้นที่ไม่เรียบหรือยึดไม่แน่นจะทำให้ชั้นวางเอียง น้ำหนักจึงกระจุกในบางจุด

  4. การบำรุงรักษาและตรวจสอบความปลอดภัย
    ตรวจสอบจุดเชื่อมต่อและน็อตยึดทุก 6 เดือน เพื่อป้องกันการคลายตัวจากแรงสั่นสะเทือน


วิธีเลือกชั้นวางของให้เหมาะกับน้ำหนักสินค้า

  1. ระบุประเภทสินค้าและน้ำหนักเฉลี่ยต่อชั้น
    คำนวณน้ำหนักเฉลี่ยของสินค้าที่ต้องวางในแต่ละชั้นก่อนเลือกซื้อ

  2. เผื่อค่าความปลอดภัย (Safety Factor)
    เลือกชั้นวางที่รับน้ำหนักได้มากกว่าความต้องการจริง 20–30% เพื่อรองรับความผิดพลาดในการจัดวาง

  3. ตรวจสอบใบรับรองมาตรฐาน
    เลือกผู้ผลิตที่มีเอกสารรับรอง เช่น ISO 9001, EN 15512 หรือรายงานการทดสอบ UDL จริงจากห้องแล็บ

สนใจชั้นวางของ ชั้นวางสินค้า >>> ช้อปที่นี่ <<<

RELATED ARTICLES

ตะแกรงเหล็กพับได้
ตะแกรงเหล็กพับได้ คืออะไร? เลือกยังไงให้คุ้มงานคลัง
ชั้นเก็บสินค้า ปลอดภัย: 7 ความผิดพลาดที่ทำให้พังเร็ว (พร้อมวิธีป้องกันที่มืออาชีพใช้)
ชั้นเก็บสินค้า ปลอดภัย: 7 ความผิดพลาดที่ทำให้พังเร็ว (พร้อมวิธีป้องกันที่มืออาชีพใช้)
ติดตั้งชั้นวาง
ติดตั้งชั้นวางของโกดัง: คู่มือครบจบในบทความเดียว เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด
ชั้นเก็บสินค้า
ชั้นเก็บสินค้า: คู่มือเลือกให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ พร้อมเทคนิคจัดคลังสินค้าอย่างมืออาชีพ
คลังสินค้าอัตโนมัติ
คลังสินค้าอัตโนมัติ คืออะไร? เหมาะกับใคร?
ชั้นวางของ
คู่มือเลือกชั้นวางอุตสาหกรรม
คลังสินค้าอัตโนมัติดียังไง คุ้มค่าไหม?
คลังสินค้าอัตโนมัติดียังไง คุ้มค่าไหม?
การจัดชั้นวางสินค้าให้ประหยัดพื้นที่และเพิ่มประสิทธิภาพ
การจัดชั้นวางสินค้าให้ประหยัดพื้นที่และเพิ่มประสิทธิภาพ